วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2550

จงเติมคำลงในช่องว่างต่อไปนี้ให้สมบูรณ์และถูกต้อง

1. คำว่า Communis แปลว่า คล้ายคลึง หรือร่วมกัน
2. การสื่อความหมาย หมายถึง เป็นกระบวนการส่งหรือ ถ่ายทอดความรู้ เนื้อหา สาระ ความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ ค่านิยม ทักษะจากบุคคลหนื่ง เรียกว่าผู้ส่งไปยังผู้รับ
3. Sender Message Channel Reciever
4. สาร หมายถึง เนื้อหา สาระ ความรู้สึก ทัศนคติ ทักษะ ประสบการณ์ ที่มีอยู่ในตัวผู้ส่ง หรือแหล่งกำเนิด
5. Elements หมายถึง องค์ประกอบย่อยๆ พื้นฐานต้องมี สระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ สีแดง เหลือง เส้น เป็นต้น
6. Structure หมายถึง โครงสร้างที่เกิดจากการนำเอาองค์ประกอบย่อยๆ มารวมกัน
ตัวอย่าง เช่น ประโยค หรือสีเส้นของรูปร่าง รูปทรง ถ้าเปลี่ยนตำแหน่งองค์ประกอบโครงสร้างก็จะเปลี่ยนด้วย มาก >กาม ยาก> กาย
7. Content หมายถึง ข้อมูลที่เป็นความรู้สึกนึกคิดความต้องการของผู้ส่ง ข้อมูลนั้นเป็น
เรื่องเกี่ยวกับอะไร สอดคล้องเหมาะสมกับอะไร จะวางแผนในการเข้ารหัสและจัดส่งอย่างไร แต่ละแนวทางอาจได้ผลที่แตกต่างกัน
8. Treatment หมายถึง วิธีการเลือก การจัดรหัสและเนื้อหาให้อยู่ในรูปแบบที่จะ
สามารถถ่ายทอดความต้องการของผู้ส่งไปยังผู้รับได้อย่างมี ประสิทธิภาพซึ่งผู้ส่งแต่ละคนจะมีวิธีการหรือเทคนิคเฉพาะตัว บางที่เรียกว่า Style ในการสื่อความหมาย
9. Code หมายถึง กลุ่มสัญลักษณ์ที่ถูกนำมาจัดแทนความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ เช่น
ภาษาพูด ภาษาเขียน ดนตรี ภาพวาด กิริยา ท่าทาง ผู้ส่งสารจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะใช้รหัสแบบใดจึงบรรลุเป้าหมายได้ดีที่สุด
10. อุปสรรคหรือสิ่งรบกวนภายนอก เช่น เสียงดังรบกวน อากาศร้อน กลิ่นไม่พึงประสงค์
แสงแดด ฝนสาด
11.อุปสรรคหรืสิ่งรบกวนภายใน เช่น ความเครียด อารมณ์ขุ่นมัว อาการเจ็บป่วย ความ
วิตกกังวล
12. Encode หมายถึง ผู้ส่งสารขาดความสามารถในการเข้ารหัส
13. Decode หมายถึง ผู้รับขาดความสามารถในการถอดรหัส
14. จงอธิบายการสื่อความหมายในการาเรียนการสอนมาให้ครบถ้วนและถูกต้อง
กระบวนการเรียนการสอนเป็นกระบวนการสื่อความหมายอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบ ดังนี้


ครู เนื้อหา.หลักสูตร สื่อหรือช่องทาง นักเรียน


(Source) (Message) (Channel) (Receiver)



ผลย้อนกลับ

1.ครูในฐานะเป็นผู้ส่งและกำหนดจุดมุ่งหมายของระบบการสอน ครูจึงควรมีพฤติกรรมดังนี้
1.1 ต้องมีความเข้าใจในเนื้อหาที่จะสอนเป็นอย่างดี
1.2 มีความสามารถในการสื่อความหมาย เช่น การพูด การเขียน ลีลา ท่าทาง ฯลฯ
1.3 ต้องจัดบรรยากาศในการเรียนให้อื้อต่อการเรียนรู้
1.4 ต้องวางแผนจัดระบบการถ่ายทอดความรู้ให้เหมาะสมกับเนื้อหาและผู้เรียน
2. เนื้อหา หลักสูตร ตลอดจนทัศนคติ ทักษะ และ ประสบการณ์เป็น สิ่งสำคัญที่ครูจะถ่ายทอดไปสู่ผู้เรียน ดังนั้น เนื้อหาควรมีลักษณะดังนี้
2.1 หมาะสมกับเพศและวัยของผู้เรียน
2.2 สอดคล้องกับเทคนิค วิธีสอน หรือสิ่งต่างๆ
2.3 เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับกาลเวลา ควรปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
3. สื่อหรือช่องทาง เป็นตัวกลางหรือพาหนะที่จะนำเนื้อหาจากครูผู้สอนเข้าไปสู้ภายในของผู้เรียน ลักษณะของสื่อควรเป็นดังนี้
3.1 มีศักยภาพเหมาะสมกับธรรมชาติของเนื้อหา
3.2 สอดคล้องกับธรรมชาติของประสาทสัมผัสแต่ละช่องทาง
3.3 เด่น สะดุดตา ดูง่าย สื่อความหมายดี
4. นักเรียนหรือผู้เรียน เป็นเป้าหมายหลักของกระบวนการเรียนการสอนที่จะทำให้ผู้เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนจึงควรมีลักษณะดังนี้
4.1 มีความสมบูรณ์ทางด้านร่างกาย โดยเฉพาะประสาทสัมผัสทั้ง 5
4.2 มีความพร้อมทางด้านจิตใจ อารมณ์มั่งคง
4.3 มีทักษะในการสื่อความหมาย
4.4 มีเจตคติต่อครูผู้สอนและเนื้อหาวิชา
15. จงอธิบายถึงความล้มเหลวของการสื่อความหมายในการเรียนการสอน
กระบวนการเรียนการสอนมักจะประสบความล้มเหลวบ่อยๆ เนื่องจากอุปสรรคหลายประการดังนี้
1. ครูผู้สอนไม่บอกวัตถุประสงค์ในการเรียนทราบก่อนลงมือสอน ทำให้ผู้เรียนขาดเป้าหมายในการเรียน
2.ครูผู้สอนไม่คำนึงข้อจำกัดและขีดความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน จึงมักใช้วิธีสอนแบบเดียวกันทุกคน
3. ครูผู้สอนไม่สนใจที่จะจัดบรรยากาศ ขจัดอุปสรรคและสร้างความพร้อมให้แก่ผู้เรียนก่อนลงมือสอน
4. ครูผู้สอนบางคนใช้คำยาก ทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจความหมายของคำ และเนื้อหาโดยรวม
5. ครูผู้สอนมักนำเสนอหาวกวน สับสน รวดเร็ว ไม่สัมพันธ์ต่อเนื่อง กระโดดไปมาทำให้เข้าใจยาก
6. ครูผู้สอนไม่หรือเลือกใช้สื่อการสอนหรือเลือกใช้สื่อการสอนไม่เหมาะสมกับเนื้อหา และระดับของผู้เรียน



----------------------------------------------

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

น้ำมันมะพร้าว (สกัดเย็น) นวัตกรรมธุรกิจร้อยล้าน




น้ำมันมะพร้าว 'สกัดเย็น' นวัตกรรมธุรกิจร้อยล้าน
Source - กรุงเทพธุรกิจบิสวีค (Th)
Monday, June 20, 2005 07:35
41307 XTHAI XECON XCORP V%PAPERL P%BIZW
น้ำมันมะพร้าว 'สกัดเย็น' นวัตกรรมธุรกิจร้อยล้าน
กมลวรรณ มักการุณ
kamolwan @ nationgroup.com
ผู้ประกอบการไทยที่ปิ๊งไอเดียในการผลิต 'น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์' ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังคงความบริสุทธิ์ไว้ได้ 100% ด้วยวิธีการ 'สกัดเย็น' นวัตกรรมที่ต่อยอดมาจากงานวิจัย...
รู้หรือไม่ว่า 'น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์' คือส่วนผสมสำคัญในเครื่องสำอางหลายชนิดที่คุณผู้หญิงแทบทุกคนใช้กันอยู่...ไม่ว่าจะเป็นครีมกันแดด หรือครีมประทินผิวอีกนานาชนิด นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบในยารักษาโรคบางชนิดด้วย
น้ำมันมะพร้าวจึงเป็นสินค้าที่แพงเอาการ ราคากิโลละหลายร้อยบาท...โดยเฉพาะหากเป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศอย่างในแถบฮาวายหรือฟิลิปปินส์ ราคาก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก
สำหรับขั้นตอนในการสกัดน้ำมันมะพร้าวนั้นจะใช้การ 'สกัดร้อน' ซึ่งมีข้อเสียคือมีสารที่เป็นประโยชน์บางตัวต้องถูกทำลายไป รวมทั้งยังมีมลภาวะทางกลิ่นตามมา...
กระทั่งมีผู้ประกอบการไทยที่ปิ๊งไอเดียในการสรรหากระบวนการผลิตใหม่ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ต่อยอดมาจากผลงานวิจัย 'การแยกน้ำมันมะพร้าวออกจากน้ำกะทิ' จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนได้รับการสนับสนุนจากโครงการ 'นวัตกรรมดี..ไม่มีดอกเบี้ย' สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
'พงศ์พิศุทธิ์ เกียรติวรางกูล' กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำมันมะพร้าวไทย จำกัด ย้อนเรื่องราวให้ฟังก่อนที่เขาจะหันมาหยิบจับ 'มะพร้าว' ให้เกิดเป็นเม็ดเงินงอกเงยเหมือนในทุกวันนี้ว่า ในบ้านเรามีการใช้น้ำมันมะพร้าวกันมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ยังนั่งขูดกระต่ายกันอยู่ โดยจะนำมะพร้าวที่ได้ไปตากแห้ง บีบออกมาจนได้น้ำมัน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ธุรกิจสปา ครีมกันแดด หรือการสกัดยารักษาโรค สบู่ น้ำมันหอมระเหย หรือนำไปทำน้ำมันปรุงอาหาร และนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่นทำน้ำยาขัดเคลือบเงาสีรถยนต์ ก็ได้เช่นกัน
'ผมมาเอะใจตรงเครื่องสำอางของแอมเวย์ เพราะดูส่วนผสมแล้วแทบทุกตัวมี Coconut oil เป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นแชมพูสระผม น้ำยาล้างจาน หรือน้ำยาขัดรถ และอีกหลายยี่ห้อก็ใช้น้ำมันมะพร้าว ผมก็เลยเริ่มศึกษาคุณสมบัติว่าทำไมถึงใช้กัน' เขาเล่า
จากนั้นเขาก็เริ่มศึกษาตลาดและความต้องการของผู้บริโภคอย่างจริงจัง รวมถึงการศึกษากระบวนการผลิตว่าวิธีใดดีที่สุดอยู่นานเกือบ 3 ปี จนพบว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการ 'สกัดเย็น'
กระบวนการผลิตน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Extract Virgin Coconut Oil) ด้วยวิธีการสกัดเย็นโดยใช้มะพร้าวสดในรูปของน้ำกะทิเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมีการผลิตที่อาศัยกระบวนการทางกลศาสตร์และใช้เทคนิคควบคุมอุณหภูมิเพื่อแยกน้ำมันมะพร้าวออกจากน้ำกะทิ ทำให้ได้น้ำมันมะพร้าวที่มีคุณภาพดี มีลักษณะใส ไม่มีสี มีกลิ่นหอมของมะพร้าวตามธรรมชาติ มีกรดไขมันอิสระน้อยกว่า 0.1% และมีส่วนประกอบกรดไขมันในอัตราส่วนที่ดีกว่าการสกัดร้อน
เขาบอกว่าที่หยิบงานวิจัยชิ้นนี้มาต่อยอด เพราะเล็งเห็น 'อนาคต' ว่าไปได้ไกล เนื่องจากมีตลาดรออยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก และกำลังหาลู่ทางที่จะส่งออกไปยังประเทศในแถบยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น
'การสกัดในบ้านเราส่วนใหญ่ใช้วิธีการสกัดร้อน ซึ่งการสกัดร้อนจะได้น้ำมันมะพร้าวดิบที่สกปรก และต้องเอามาฟอกใหม่โดยใช้สารเคมี อีกวิธีคือการเอากะทิไปหมัก แล้วแยกเอาไขออกมา ซึ่งถ้าทิ้งไว้นานๆ จะเกิดแบคทีเรียและมีกลิ่น เราเลยหาวิธีสกัดแบบใหม่โดยไปได้ผลงานวิจัยจาก ม.เกษตร ของ ดร.สุกล ดูว่าท่านทำยังไง ก็พบว่าใช้การสกัดเย็น ไม่ใช้ความร้อนเลย
วิธีการคือนำกะทิมาผ่านเข้าเครื่อง แล้วกวนโดนใช้ความเย็นจนออกมาเป็นน้ำมัน แล้วนำไปผ่านเครื่องกรองให้ออกมาใส เอาส่วนที่เป็นเค้กออก เอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำมันที่เรียกว่า Extra Virgin Oil แล้วนำไปผ่านกระบวนการดูดกลิ่นกับความชื้นออก ก็จบกระบวนการ'
เขาตั้งบริษัทน้ำมันมะพร้าวไทยขึ้นมาด้วยทุนจดทะเบียน 6.5 ล้านบาท โดยลงทุนครั้งแรกกับเครื่องจักรประมาณ 10 ล้านบาท (เทียบกับเครื่องจักรจากต่างประเทศที่ราคาประมาณ 30 ล้านบาท) เบ็ดเสร็จลงทุนไปในโรงงานทั้งสิ้นราว 20 ล้านบาท
สำหรับความแตกต่างของการสกัดแบบร้อนและเย็นนั้น เขาบอกว่าการสกัดเย็นนั้น น้ำมันที่ได้จะสะอาดบริสุทธิ์ และไม่ต้องนำไปกลั่น สารบางชนิดที่มีประโยชน์จะยังคงอยู่ นอกจากนี้ยังไม่มีมลภาวะหรือของเสียเกิดขึ้น ส่วนการสกัดร้อนนั้นจะทำให้เกิดกลิ่น
'ที่เราทำก็เป็นการช่วยเหลือชาวสวน ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ปกติน้ำมันมะพร้าวจากฮาวายจะอยู่ที่ลิตรละ 1,500 บาท แต่ของเราขายเพียงลิตรละ 500-600 บาท'
เขาเล่าต่อไปว่า เมื่อทำการเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตต่อหน่วยนั้น พบว่าการสกัดเย็นมีต้นทุนที่ต่ำกว่า โดยเมื่อวัดจากผลผลิต 1 ลิตรเท่ากัน การสกัดร้อนจะมีต้นทุน 145 บาทต่อลิตร แต่การสกัดเย็นจะมีต้นทุนที่ 84 บาทต่อลิตร
โดยกำลังการผลิตอยู่ที่ 120,000 ลิตรต่อเดือน แต่ปัจจุบันผลิตที่ 15,000-30,000 ลิตรต่อเดือน ขึ้นกับออเดอร์จากลูกค้า 'เดือนหน้าเราจะผลิตที่ 2,000 ลิตรต่อชั่วโมง หรือ 120,000 ลิตรต่อเดือน ซึ่งจะต้องใช้มะพร้าวประมาณ 2.4 ล้านลูกต่อเดือน และเราจะทำให้โรงงานเป็นระบบปิดหมดเลย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนเรื่องไฟฟ้าลงได้ เวลานี้ก็พยายามขอ GMP และ ISO 9000 อยู่
แหล่งมะพร้าวของเราเป็นมะพร้าวไทยพันธุ์ต้นสูง แถบแม่กลอง ซึ่งจะได้ลูกมะพร้าวขนาดใหญ่ และมีเนื้อหนา ซึ่งจะทำให้ได้น้ำมันมะพร้าวเป็นจำนวนมาก โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ลูกละ 5-10 บาท
'พงศ์พิศุทธิ์' เล่าว่าน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ของเขาได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในโครงการ 'นวัตกรรมดี ไม่มีดอกเบี้ย' เนื่องจากสำนักงานฯ เล็งเห็นความเป็นไปได้ทางธุรกิจของโครงการนี้
'เรามีความได้เปรียบในเรื่องวัตถุดิบ เนื่องจากอำเภอบ้านแพ้ว สมุทรสาคร อยู่ในแหล่งวัตถุดิบ และยังสามารถหาวัตถุดิบใกล้เคียงได้อีกพื้นที่ใกล้เคียง เช่นเพชรบุรีและราชบุรี นอกจากนี้กระบวนการผลิตแบบสกัดเย็นยังสามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจได้ เช่นนำกะลามะพร้าวไปขายโรงงานถ่านอัดแท่ง นำน้ำมะพร้าวไปทำวุ้นมะพร้าว นำกากมะพร้าวขายโรงงานอาหารสัตว์ และนำโปรตีนขายให้อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง'
และนั่นทำให้เขาได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานฯ ด้วยการชำระดอกเบี้ยให้แก่ SMEs Bank ที่เขาไปกู้มาในวงเงิน 5.5 ล้านบาท เป็นเวลานานถึง 2 ปี
'ปัจจุบัน SMEs มีการพัฒนาไปมาก มีการสร้างเครือข่าย และยังมีหน่วยงานของรัฐหลายแห่งที่หันมาให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง' เขากล่าว พร้อมกับบอกว่านอกจากสำนักงานนวัตกรรมจะให้การสนับสนุนเรื่องดอกเบี้ยแล้ว ยังให้การช่วยเหลือในเรื่องของวิชาการ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้คำปรึกษาโดยนักวิทยาศาสตร์ รวมทั้งการช่วยทำการตลาดในบางส่วนอีกด้วย
'สำหรับเรื่องคู่แข่งไม่น่าเป็นห่วง เพราะตลาดกว้าง ตราบใดที่โลกนี้ยังมีผู้หญิง มีเครื่องสำอาง น้ำมันมะพร้าวก็ขายได้ แต่ผมชอบทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่น และยังไม่มีใครทำ
ต่อไปผมก็จะพัฒนาสินค้าต่อไปอีกเรื่อยๆ อาจจะทำน้ำมันมะพร้าวที่เป็นครีมพร้อมใช้ได้เลย และจะหางานวิจัยใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับมะพร้าวและไม่ทำลายธรรมชาติ' เขาทิ้งท้าย..--จบ--
--กรุงเทพธุรกิจ Bizweek ฉบับวันที่ 17 - 23 มิถุนายน 2548--


ชอบนวัตกรรม น้ำมันมะพร้าว (สกัดเย็น) เป็นนวัตกรรมที่แปลกและไม่เหมือนใครและไม่แข่งกับใคร นวัตกรรมนี้นำวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติมาดัดแปลงมาเป็นนำมันมะพร้าวได้เหมือนกัน และเอาไปใช้ได้หลายอย่าง โดยที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม และต่อไปเขาก็จะคิดหาวิธีใหม่ๆ มาอีก อาจจะเป็นครีม หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม.

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ประวัติของฉัน


วันนี้อากาศแจ่มใสทั้งอารมณ์ดีและอยากจะนั่งเขียนอะไรลงใส่กระดาษคือประวัติส่วนตัวของดิฉันเป็นอะไรที่ไม่น่าแปลก จะต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่ให้ดิฉันเกิดมาดิฉันเกิดวันอังคารที่ 16 ตุลาคม 2550 เป็นผู้หญิงคนโต พ่อกับแม่เลยตั้งชื่อกรรณิการ์ หลวงพิทักษ์ พออายุได้ประมาณ 4ขวบก็เข้าอนุบาลที่โรงเรียนวัดดอนตลุง และพอ6 ขวบก็เข้า ป.1 - ป.6 และก็ต่อที่โรงเรียนเดิมเป็นโรงเรียนขยายโอกาส ม.1-ม.3 พอจบมัธยมได้โควต้าไปต่อที่วิทยาลัยเทคนิคโพธาราม ปวช.1-3 ในขณะที่เรียนอยู่นั้นเรียนอยู่สาขาเคมีสิ่งทอ ในช่วงนั้นเรียนเหนื่อยมาก พอจบ ปวช.แล้ว ก็ไปต่อที่สถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เอกบริหารทรัพยากรมนุษย์ 4 ปี เหนื่อยเหมื่อนกันในขณะนั้นเพราะไปต่อบริหาร พื้นฐานในขณะนั้นไม่มีเลยเพราะมีพื้นฐานเคมีมา เรียนปริญาตรี 4 ปีก็จบดิฉันจบ พ.ศ. 2545 และรับปริญาตรี พ.ศ. 2546 พอจบก็ได้หางานทำได้งานที่ ครัวราชพงษ์ ทำหน้าที่แคชเชียร์ ทำงานได้ประมาณ 6 เดือนก็ออกจากงานพอออกก็ได้ไปช่วยแม่ขายของ ประมาณ2 ปี ได้ข่าวว่าแถวๆบ้านมีประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็กเล็ก และได้สอบ พอไปฟังผลประกาศสอบรู้ว่าได้อันดับที่ 4 ก็ดีใจเพราะจะได้ทำงานแถวบ้านจะได้ไม่ต้องเปลื้องอะไรมากนัก ทุกวันนี้ถึงแม้จะไม่มีความรู้พื้นฐานด้านปฐมวัยมา ดิฉันจะพยายามทำงานตรงนี้ให้ดีดีสุด และจะทำหน้าที่เป็นครูที่ดีและเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เด็กๆ ซึ่งเด็กๆเหล่านี้จะเป็นอนาคตของชาติต่อไปในอนาคตที่ดี.

เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเพิ่มประสิทธิภาพการสอน


กิจกรรมการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมร่วมอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร วิธีพิจารณาประสิทธิภาพของการเรียนการสอนแบบง่าย ๆ ก็คือดูว่า หากผู้เรียนและผู้สอนใช้เวลาและความพยายามพอสมควรและผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มาก เราถือว่าประสิทธิภาพในการสอนดี เพราะลงทุนน้อยได้กำไรมาก แต่ในทางกลับกัน ถ้าทั้งผู้เรียนและ ผู้สอนได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง มีความเหนื่อยยากแสนสาหัส และใช้เวลาเพื่อการนี้เป็นจำนวนมากจนไม่มีเวลาที่จะทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่มนุษย์ปกติเขาทำกัน แต่ผลที่ได้ออกมามันไม่มากเหมือนที่ได้ตั้งใจร่วมกันเอาไว้ กล่าวคือ คนเรียนสอบตกมากกว่าสอบได้ และพวกที่สอบได้ก็สอบได้แบบรอดตายหวุดหวิดเสียเป็นส่วนใหญ่ เป็นผลให้ทั้งผู้สอนและผู้เรียนมีความบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นอย่างมาก ในกรณีเช่นนี้เราจะถือเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากถือว่าประสิทธิภาพของการเรียนการสอนต่ำเป็นการลงทุนมากแต่ได้กำไรน้อย และเมื่อพบว่าประสิทธิภาพของการเรียนการสอนน้อยหรือต่ำ เราควรจะ ทำอะไรต่อไปดี ประสิทธิภาพการสอนเป็นเรื่องใหญ่ของสถาบันการศึกษา เป็นหัวใจของสถาบันการศึกษา เป็นเรื่องของหุ้นส่วนระหว่าง ผู้บริหาร ผู้สอน และผู้เรียน ที่ถือหุ้นเป็นจำนวนเท่า ๆ กัน เมื่อพบว่าสถาบันการศึกษาใดมีประสิทธิภาพของการสอนต่ำ ย่อมสรุปได้ว่าอาจมีเหตุปัจจัยมาจากผู้ถือหุ้นเหล่านั้น จะเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทุกฝ่ายร่วมกันก็อาจเป็นได้ การวิเคราะห์ระบบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียนการสอนต้องวิเคราะห์หุ้นส่วนทั้งหมด เมื่อพบว่ามีความบกพร่องที่ใด ก็ต้องแก้ไขปรับปรุงตรงปัจจัยนั้น ๆ พระท่านสอนว่า ทุกข์ย่อมเกิดจากเหตุ ในเมื่อเหตุนั้นอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ก็ควรอย่างยิ่งที่จะวิเคราะห์ให้ครบทุกปัจจัย หากยังขืนเลือกไม่วิเคราะห์บางปัจจัย เพราะไม่กล้าวิเคราะห์ เราก็อาจจะเกาไม่ถูกที่คัน คงจะต้องเกาตรงบริเวณที่ไม่คันกันจนเลือดไหล และยังคงคันหรือเป็นทุกข์ตลอดไป
ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology: IT) หรือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technologies: ICTs) ก็คือ เทคโนโลยีสองด้านหลัก ๆ ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมที่ผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อใช้ในกระบวนการจัดหา จัดเก็บ สร้าง และเผยแพร่สารสนเทศในรูปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียง ภาพ ภาพเคลื่อนไหว ข้อความหรือตัวอักษร และตัวเลข เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้อง ความแม่นยำ และความรวดเร็วให้ทันต่อการนำไปใช้ประโยชน์

ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมี 5 ประการ (Souter 1999: 409) ได้แก่
ประการแรก การสื่อสารถือเป็นสิ่งจำเป็นในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ สิ่งสำคัญที่มีส่วนในการพัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ประกอบด้วย Communications media, การสื่อสารโทรคมนาคม (Telecoms), และเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)
ประการที่สอง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลักที่มากไปกว่าโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ เช่น แฟกซ์, อินเทอร์เน็ต, อีเมล์ ทำให้สารสนเทศเผยแพร่หรือกระจายออกไปในที่ต่าง ๆ ได้สะดวก
ประการที่สาม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีผลให้การใช้งานด้านต่าง ๆ มีราคาถูกลง
ประการที่สี่ เครือข่ายสื่อสาร (Communication networks) ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายภายนอก เนื่องจากจำนวนการใช้เครือข่าย จำนวนผู้เชื่อมต่อ และจำนวนผู้ที่มีศักยภาพในการเข้าเชื่อมต่อกับเครือข่ายนับวันจะเพิ่มสูงขึ้น
ประการที่ห้า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทำให้ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ และต้นทุนการใช้ ICT มีราคาถูกลงมาก
http://www.sut.ac.th/tedul Article/Teaching2.htm
http://dusithost.dusit.ac.th/~libraianlit107/c1.htm/


แสดงความคิดเห็น -
เทคโนโลยีมีความจำเป็นในการสอนมากในการสอนในบางครั้งก็ต้องใช้เทคโนโลยีช่วยสอนได้หาความรู้ประสบการณ์เข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการกระบวนจัดหา จัดเก็บสร้าง เผยแพร่ การศึกษาเทคโนโลยีก็ช่วยสืบหาข้อมูลได้สะดวกได้หาความรู้ใหม่ๆมากขึ้นและจะได้เอาไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้